Saturday, November 16, 2013

Thaibikehouse.com ศูนย์รวมข้อมูลจักรยาน ข่าวสาร ข่าวประชาสัมพันธ์

Thaibikehouse.com ศูนย์รวมข้อมูลจักรยาน ข่าวสาร ข่าวประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับ "จักรยาน" พูดคุยเรื่องทั่วไปในแวดวงจักรยาน วงการนักปั่นจักรยาน สื่อกลางลงประกาศ ซื้อ-ขาย จักรยานใหม่ จักรยานมือสอง อะไหล่พร้อมอุปกรณ์ชั้นนำทั่วประเทศ.

จักรยาน ส่วนใหญ่หมายถึงจักรยานสองล้อ ทั่วไปหมายถึงเครื่องจักรกลชนิดเฟืองส่งกำลัง ที่ทำขึ้นเป็นยานพาหนะ จักรยานมีประวัติความเป็นมายาวนานเช่นเดียวกับเครื่องจักรกลที่บังคับด้วยคน ประเภทต่างๆ จักรยานเป็นยานพาหนะกลไกขับเคลื่อนชนิดเดียวที่ได้ชื่อว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด.

เว็บไซต์ : http://www.thaibikehouse.com/

ประเภทของจักรยาน

  • จักรยานเสือหมอบ (Road Bike)
  • จักรยานเสือภูเขา (Mountain Bike)
  • จักรยานทัวริ่ง (Touring Bike)
  • จักรยานไฮบริด (Hybrid)
  • จักรยานฟิกซ์เกียร์ (Fixed Gear)
  • จักรยานพับ (Folding Bike)
  • จักรยานมินิ (Mini)
  • จักรยานแม่บ้าน
  • จักรยานบีเอ็มเอกซ์ (BMX)
  • จักรยานเด็ก
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง :

บริษัททัวร์ | สถานที่ท่องเที่ยว ในประเทศไทย | ทัวร์ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน | ทัวร์เชียงคาน จังหวัดเลย | ไหว้พระ 9 วัด ในประเทศไทย | แพ็คเกจทัวร์ในประเทศไทย

Friday, November 8, 2013

แพ็คเกจทัวร์วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา 2 วัน 1 คืน

แพ็คเกจทัวร์วังน้ำเขียว นครราชสีมา 2 วัน 1 คืน

โปรแกรมทัวร์วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา กิจกรรมสันทนาการ เล่นเกมส์ กิจกรรมวอล์ค แรลลี่ (Walk Rally) สร้างความสามัคคีในองค์กร และความสุขในการทำงาน ท่องเที่ยว Village Farm Winery ไร่องุ่นสไตล์ฝรั่งเศษ เที่ยวชมสวนผักปลอดสารพิษ / ไม้ดอกไม้ประดับ วังน้ำเขียว / การเพาะเห็ดหอม ฟลอร่า พาร์ค (Flora Park Wangnamkeaw) วังน้ำเขียว ชมไม้ดอก ไม้ประดับนานาพันธุ์ ร้านกาแฟ a cup of love วังน้ำเขียว เป็นต้น

รายละเอียดเพิ่มเติม : http://goo.gl/RswjTx

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
แฟมิลี่ ออน ทัวร์ : Family on Tour
โทรศัพท์มือถือ DTAC : 08-1567-1332 เลขที่ใบอนุญาต 23/02090
เว็บไซต์ : www.fmlot.com แฟนเพจ : www.facebook.com/familyontour

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (Temple of the Emerald Buddha)

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (Wat Phra Si Rattana Satsadaram or Temple of the Emerald Buddha) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว (Wat Phra Kaew) เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ที่นำมาจากกรุงเวียงจันทร์ แต่แท้ที่จริงแล้ว พบเจอวัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย และเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส

วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด การบูรณะครั้งใหญ่ทั้งพระอาราม มีขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี ใน พ.ศ. 2425 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามในโอกาสที่มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ในรัชกาลปัจจุบันโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามอีกครั้งใน พ.ศ. 2525 เมื่อมีการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานในการบูรณะ

วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่สำคัญและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของบ้านเมือง ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ

พระพุทธรูปสำคัญภายในพระอุโบสถ

พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนตอนต้น ทำจากหินหยกสีเขียวเข้มทึบแสง ปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 43 ซม. สูง 55 ซม.

พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระพุทธรูปที่รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างอุทิศให้กับรัชกาลที่ 1 และ 2 ศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางห้ามสมุทร สูง 3 เมตร ทรงเครื่องต้นพระจักรพรรดิราช เป็นพระพุทธรูปสำริดหุ้มทองคำลงยาราชาวดี เครื่องต้นประดับเนาวรัตน์ ใช้ทองคำเท่ากับทองที่หุ้มพระศรีสรรเพชญ ในสมัยอยุธยา

พระสัมพุทธพรรณี รัชกาลที่ 4 ทรงสร้างใน พ.ศ. 2373 ตามอย่างพุทธลักษณะที่พระองค์ทรงสอบสวนได้ สร้างจากกะไหล่ทองคำ ปางสมาธิหน้าตักกว้าง 49 ซม. สูงถึงพระรัศมี 67.5 ซม. มีการเปลี่ยนพระรัศมีเป็นสีต่าง ๆ ตามฤดูกาล พร้อมกับการเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต

พิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

พิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดารามในเขตพระราชฐานชั้นนอกของพระบรมมหาราชวัง เดิมเป็นโรงกษาปณ์ ใช้ผลิตเงินตราเพื่อใช้ในประเทศ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นอาคารรูปแบบตะวันตก ในปี พ.ศ. 2525 ในวาระการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นแม่กองบูรณะจึงขอพระราชทานอาคารโรงกษาปณ์มาเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีสิ่งหน้าสนใจหลายอย่างเช่นปืนใหญ่ที่ตั้งแสดงไว้ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาจีนที่ตั้งไว้หน้าอาคารพิพิธภัณฑ์

By http://en.wikipedia.org/wiki/Wat_Phra_Kaew

Monday, October 7, 2013

พระราชวังกรุงธนบุรี หรือ พระราชวังเดิม

พระราชวังกรุงธนบุรี หรือ พระราชวังเดิม เป็นพระราชวังหลวงของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ ในเขตที่เคยเป็นที่ตั้งของป้อมวิไชยเยนทร์ ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตำแหน่งของพระราชวังนี้ เป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ สามารถสังเกตการณ์ได้ในระยะไกล อีกทั้งยังใกล้กับเส้นทางคมนาคมและเส้นทางการเดินทัพที่สำคัญด้วย

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้โปรดให้สร้างพระราชวังนี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2310 ภายหลังจากที่ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย เพื่อใช้เป็นที่ประทับและว่าราชการ เมื่อทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี พร้อมกับปรับปรุงป้อมวิไชยเยนทร์และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นป้อมวิไชยประสิทธิ์

เดิมพระราชวังแห่งนี้มีอาณาเขต ตั้งแต่ป้อมวิไชยประสิทธิ์ขึ้นมาจนถึงคลองเหนือวัดอรุณราชวราราม (คลองนครบาล) โดยรวมวัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม) และวัดท้ายตลาด (วัดโมลีโลกยาราม) เข้าไปในเขตพระราชวัง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ได้ทรงย้ายราชธานีมาอยู่ฝั่งพระนคร โดยสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นเป็นที่ประทับ พระราชวังกรุงธนบุรีจึงได้ชื่อว่า "พระราชวังเดิม" ตั้งแต่บัดนั้น

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงกำหนดเขตวังให้แคบกว่าเดิม โดยให้วัดทั้งสองที่กล่าวแล้วอยู่ภายนอกพระราชวัง และ นอกจากนี้ทรงแต่งตั้งพระราชวงศ์ชั้นสูงที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยมาประทับที่นี่ อันเนื่องจากเห็นว่าพระราชวังนี้มีความสำคัญทางด้านทำเลที่ตั้ง ได้แก่

พระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงธิเบศรบดินทร์ พระโอรสในกรมพระเทพสุดาวดี ประทับอยู่จนสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2328
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประทับอยู่ขณะทรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร วังหน้าในรัชกาลที่ 1 จนกระทั่งเสด็จขึ้นครองราชสมบัติในปี พ.ศ. 2352
พระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี พระโอรสในกรมพระศรีสุดารักษ์ ประทับอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 2 จนสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2365
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่ขณะทรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามงกุฎ ในรัชกาลที่ 2 จนกระทั่งผนวชเมื่อ พ.ศ. 2368
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่ขณะทรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจุฑามณี ในสมัยรัชกาลที่ 3 จนกระทั่งทรงพิธีบวรราชาภิเษก และเสด็จไปประทับที่วังหน้าเมื่อ พ.ศ. 2394 ในสมัยรัชกาลที่ 4
กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ประทับอยู่ตั้งแต่ประสูติ จนเสด็จไปประทับที่วังใหม่ที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพระราชทาน
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ประทับอยู่ตั้งแต่ พ.ศ. 2394 ในสมัยรัชกาลที่ 4 จนสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2414
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงศ์ ประทับอยู่ขณะทรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่ พ.ศ. 2424 จนสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2443
จนในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 หลังจากสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระจักรพรรดิพงศ์สิ้นพระชนม์ ทรงพระราชทานพระราชวังเดิมให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ ตามคำกราบบังคมทูลขอพระราชทานจากนายพลเรือตรี พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2449 หลังจากโรงเรียนนายเรือย้ายออกไปอยู่สัตหีบ และย้ายมาอยู่ที่สมุทรปราการ กองทัพเรือจึงได้ใช้ พระราชวังเดิมแห่งนี้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการกองทัพเรือ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Friday, September 21, 2007

General Information :

Nakhon Phanom at a glance

Located on the right bank of the majestic Mekong River is Nakhon Phanom an ancient city with a name that literally means of City of Hills. The lovely setting of the provincial capital is enhanced by the rugged beauty of jungle covered mountains which lie beyond the Laotian town of Tha Khaek, located on the opposite bank of the river. Nakhon Phanom is renowned as a great place with beautiful scenery and relaxing ambiance by the Mekong River.

With a history that dates back many thousands of years, the province is a melting pot of diverse ethnic cultures and traditions. However, the culture with the strongest influence on the architecture, customs and cuisine of the province is the Lao culture.

Encompassing a total area of 5,512 square kilometers, most of which are high hills and plains covered with lush and virgin forests, Nakhon Phanom is where Phra That Phanom, the most sacred and ancient religious monument of the Northeast, is located. Both Thais and Laotians usually make their pilgrimage to this highly venerated site to ask for blessings. In addition, visitors can experience the unique fusion of Thai and Lao arts and culture through customs such as the Bai-Sri-Su-Kwan ceremony (the extension of a generous welcome to guests when a potent brew of home-made liquor is usually served).

History of Nakhon Phanom

One of the important cities of upper I-San, Nakhon Phanom was once known as "Sri Kotrabun Kingdom". Most historians believe that when King Rama I ruled Vientiane, the area was named "Maruka Nakhon". It was later renamed "Nakhon Phanom", because of its outstanding geographical feature its location among many hills and mountains.

Throughout history, Laotians and people from other ethnic groups had migrated across the Mekong River. This recurring pattern of migration left its mark on the local dialects, customs and cuisine of Nakhon Phanom. Some historic treasures include folk dances such as the Sri Kotrabun dance, which is regarded as the symbolic dance of Nakhon Phanom's, the Fon Phu Thai, Sek-Ten-Sak and So Tung Bung that are performed on special occasions.

Todays Nakhon Phanom

Nakhon Phanom, which is 740 kilometers from Bangkok, covers an area of 5,512 square kilometers and is comprised of the following districts: Mueang Nakhon Phanom, Pla Bak, Tha Uthen, Phon Sawan, Ban Phaeng, That Phanom, Renu Nakhon, Na Kae, Si Songkhram, Na Wa, Na Thom and Wang Yang.

Information by : Tourism Authority of Thailand

General Information :

Sakon Nakhon is in the upper Northeast. It is on the Phu Phan mountain range and has many forest temple retreats for meditation. These temples are also where famous monks well known in meditation circles reside.

Sakon Nakhon is 647 kilometres from Bangkok and has an area of 9,605 square kilometres. Sakon Nakhon consists of the following districts: Muang Sakon Nakhon, Waritchaphum, Kut Bak, Kusuman, Ban Muang, Phanna Nikhom, Sawang Daen Din, Wanon Niwat, Phang Khon, Akat Amnuai, Song Dao, Kham Ta Kla, Tao Ngoi, Khok Si Suphan, Nikhom Nam Un, Charoen Sin, Phon Na Kaeo and Phu Phan.

Information by : Tourism Authority of Thailand

General Information :

Split off from Udon Thani in 1993, Nong Bua Lam Phu is a scenic province famous for its prehistoric sites. Fossilised shells about 140 million years old can be seen in the cliffs 10 kilometres outside the main town;archaeological sites at Kudkwangsoi villages are also attractions.

Well worth a visit is the huge Erawan Cave, Full of beautiful stalagmites and stalacitites. A very long stairway leads up to the cavern, where a large Buddha sits at the entrance.

Wat Tham Klong Phen, a tranquil forest monastery outside of town, is revered as the home of the famous meditation monk. Luang Phu Khao Analayo. A museum in the compound is dedicated to the monk. A beautiful nature reserve is found at Phu Kao Phupan Kham National Park covering 320 square kilometres, including a large lake formed by Ubon Ratana Dam, which is a popular fishing area.

Information by : Tourism Authority of Thailand

General Information :

Nakhon Sawan Province, also known as Pak Nam Pho is where the rivers of Ping, Wang, Yom, and Nan converge and form the Chao Phraya River, the most important waterway of Thailand.

Nakhon Sawan is in the lower northern part of the country between the North and the Central Region. It is regarded as the doorway to the North and it is the hub of transportation in the Lower North.

Information by : Tourism Authority of Thailand

General Information :

Uthai Thani is a province abundant in natural resources, such as forests and wildlife. “Huai Kha Khaeng Wildlife Reserve” here was proclaimed a Nautral World Heritage Site on 13 December 1991. The reserve has jungles, forests, plains, many streams, and most importantly, a number of rare and endangered animals.

Due to the verdant nature of the area, Uthai Thani is a province with unspoiled natural tourist destinations that are of interest to tourist everywhere.

Furthermore, visitors can see the different lifestyles of locals, such as the life of raft residents on Sakae Krang River, a waterway that aided the birth of the province and which has been a lifeline for its people since ancient times. It is also where provincial trading has flourished. Life revolving around the river eventually grew from a community into the major province that it is today.

The most striking indication of the bond between the people and the river since the old days is that in 1906, when King Rama V visited northern provinces and stayed in Sakae Krang village, the monk Phra Khru Uthai Tham Nithet (Chan) built 2 twin rafts to receive the king. This clearly showed the importance of the river and the lifestyle of the people living off it in that period.

In addition, at the end of the Buddhist Lent, Buddhists from all directions congregate in the province for a major merit-making tradition called Tak Bat Thewo at the foot of Khao Sakae Krang at Wat Sangkat Rattana Khiri. This festival has been held in Uthai Thani since ancient times.

Information by : Tourism Authority of Thailand

General Information :

346 kilometres from Bangkok, Phetchabun borders on three regions, the North, the Central and the Northeast. The central part of the province is on the Pa Sak river basin with mountain ranges running along both the western and eastern sectors. Because of the fertility of the land, Phetchabun has always been an agriculturally productive area. The very name of the province actually means the land of crops and foods.

Today, Phetchabun is a province with rich tourism potential. Its climate is pleasant due to the mountainous and forested areas and it has a history of richness and prosperity for more than 1,400 years. As and Sukhothai styles have been discovered.

Phetchabun is administratively divided into the following districts: Muang, Lom Sak, Lom Kao, Chon Daen, Nong Phai, Wichian Buri, Si Thep, Bueng Sam Phan, Wang Pong, Nam Nao and Khao Kho.

Information by : Tourism Authority of Thailand